ความเสี่ยงที่สุดของธุรกิจ คือการที่คุณไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย

มือถือที่คุณซื้อมาใหม่วันนี้ อาจตกรุ่นภายในไม่กี่สัปดาห์
.
ของที่ฮอตฮิตตอนนี้ อาจไม่มีคนสนใจหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน
.
หลายคนอาจเปิดร้านอาหารมาเป็นเวลานาน จากที่เคยขายดี พอวันนึงมีคู่แข่งเข้ามาในตลาด ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่มากขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ลูกค้าคุณก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ
.
แทนที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลง คุณก็ยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ เมนูเดิมๆ วิธีการขายเดิมๆ แต่ก็หวังจะให้ยอดขายมันดีขึ้น ซึ่งผลลัพธ์มันจะต่างอะไรจากเดิมละครับ ถ้าคุณยังทำเหมือนเดิม จริงมั้ย
.
อย่าเสียเวลาคาดหวังผลลัพธ์ใหม่ จากการกระทำเดิม ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ สิ่งที่คุณควรจะต้องทำในยุคนี้คือเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
.
ความใหญ่ในธุรกิจไม่ได้มีแต้มต่อในการแข่งขันมากเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่มันคือคนที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับตลาดมากกว่าที่จะอยู่รอดในยุคนี้ได้
.
บางครั้งคุณอาจต้องยอมเดินออกจากกรอบเดิม ๆ ที่เคยเป็นอยู่ ถ้ากรอบนั้นมันไม่ได้ดีเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพื่อไปลองในสิ่งใหม่ ๆ ที่คุณยังไม่เคยทำ
.
เช่น คุณอาจตัดสินใจรีแบรนด์ดิ้งร้านที่เปิดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เผื่อจะได้ลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น คุณอาจตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบเมนู โดยตัดเมนูที่ขายไม่ดีไปและเพิ่มเมนูใหม่ๆ ที่เป็นกระแสเพิ่มเข้ามา คุณอาจตัดสินใจเรียนรู้เรื่องการตลาดออนไลน์และลองทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าออนไลน์เท่านั้น
.
ถึงแม้ว่าผลลัพธ์อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณต้องการไปทุกครั้ง แต่ย่อมดีกว่าการที่คุณเลือกอยู่กับที่แล้วไม่ทำอะไรกับมันเลยแน่นอน
———————-
ขอบคุณข้อมูลจาก
Torpenguin – ผู้ชายขายบริการ